Voodoo Camera Tracker

25 02 2009

วันนี้ขอเขียนถึงเรื่องการสร้างแบบจำลองจาก ภาพวีดีโอ โดยอาศัยโปรแกรม VooDoo Camera Tracker ตอนที่เขียนนี้อยู่ที่เวอร์ชั่น 0.9.4 สำหรับผมก็เป็นเรื่องใหม่เหมือนกัน ดังนั้นวันนี้ผมจะเขียนในส่วนของการดาวน์โหลด และการติดตั้งเป็นหลัก
Voodoo นั้นพัฒนาโดยมหาวิทยาลัยแฮนโนเวอร์ ประเทศเยอรมันนี ภายใต้ชื่อ Voodoo Camera Tracer หลังคุณ Anton van den Hengel และ Anthony Dick ย้ายไปพัฒนาต่อในออสเตรเลีย แล้วเปลี่ยนชื่อผลิตภัณฑ์เป็น Video Trace [อ้างอิง2] ส่วนที่ให้ดาวน์โหลดได้นั้นเป็นของ digi lab ของ แฮนโนเวอร์ สามารถทำงานได้ทั้งบน วินโดวน์และ ลีนุกซ์ เวอร์ชั่นฟรีนั้นชื่อ VooDoo ส่วนเวอร์ชั่นทางการค้าใช้ชื่อ VooCAT ซึ่ง VooCAT นั้นสามารถทำงานได้บน วินโดวน์ แมคโอเอสสิบ และ ลีนุกซ์

ดาวน์โหลด
Voodoo Camera Tracker

ไฟล์ติดตั้งสำหรับวินโดวน์ นั้นที่เวอร์ชั่น 0.9.4 มีขนาด 35.6 MB ดาวน์โหลดและติดตั้งได้เลย
หน้าตาเมื่อติดตั้งแล้ว
Voodoo Camera tracker

ใช้งานไม่ยาก เปิดมาแล้วก็ โหลดภาพเข้า แล้วก็สั่ง trace สามารถปรับแต่งได้ทีละ ภาพ
max1

ได้ผลออกมาเป็น แบบจำลองแล้ว
scene1

เดี๋ยวลองทำแล้วจะเอาผลงานมาให้ดู

แผนขั้นต่อไปคือ พัฒนาให้ความถูกต้องทางตำแหน่งมีผลกับแบบจำลองที่ได้
น่าสนไหมหละ





มีอะไรใน worldfile

7 01 2009

ไฟล์ GeoTiff เป็นไฟล์ ที่รู้จักกันดี ในหมู่นักทำแผนที่ และ ภูมิสารสนเทศน์
เป็นไฟล์ ที่เก็บ ภาพ ได้ หลายชั้นข้อมูล พร้อมทั้ง มีข้อมูลเชิงตำแหน่ง ด้วย
ทั่วไป ก็มี ด้วยกัน สองแบบ

  1. GeoTiff แบบที่มี worldfile แบบนี้ จะมีด้วย กัน สอง ไฟล์ ไปไหนไปด้วยกัน ไม่งั้นทำงานไม่ได้ ไฟล์แรก เก็บภาพ นามสกุล .tif อีกไฟล์ เป็น ไฟล์ ที่เก็บข้อมูลเชิงตำแหน่งของภาพ นามสกุล .wtf เรียกว่า world file
  2. GeoTiff แบบที่ มี world file อยู่บนหัวไฟล์ tiff เลย แบบนี้ มีไฟล์เดียว เวลาใช้งาน ก็มาอ่านค่า จากส่วนหัวนี้ก่อน ไปเป็นข้อมูลเชิงตำแหน่ง

ทีนี้ ลองมาดูว่า worldfile เก็บค่าอะไรบ้าง

worldfile มีอยู่ด้วยกัน 6 บรรทัด เช่น (สามารถเปิดอ่านด้วย text editor ทั่วไปได้)

20.17541308822119
0.00000000000000
0.00000000000000
-20.17541308822119
424178.11472601280548
4313415.90726399607956

ความหมายของ ทั้ง 6 บรรทัด มีดังนี้


line 1: x-dimension of a pixel in map units
line 2: rotation parameter
line 3: rotation parameter
line 4: NEGATIVE of y-dimension of a pixel in map units
line 5: x-coordinate of center of upper left pixel
line 6: y-coordinate of center of upper left pixel

ในการใช้งาน
ตัวอย่างเช่น โปรแกรม Arcview เรียกข้อมูลภาพ ขึ้นมา นั่นหมายถึง กำลังนำภาพ เข้าสู่ระบบพิกัดโลก ที่เรียกว่า การฉายแผนที่ ซึ่งต้องอาศัย พารามิเตอร์จำนวน 6 ตัว ในสมการ
affine transformation


x1 = Ax + By + C
y1 = Dx + Ey + F

โดยที่

x1 = ค่าพิกัด แกน x ของภาพ บน แผนที่
y1 =
ค่าพิกัด แกน y ของภาพ บน แผนที่
x = จำนวน column ของจุดภาพ ในภาพ
y =
จำนวน row ของจุดภาพ ในภาพ
A = มาตราส่วนแกน x
B, D = เทอมการหมุน
C, F = แปลงค่าพิกัดจากแผนที่ จากแบบ จากจุดภาพบนซ้าย (การนับจำนวนจุดภาพ ของจอภาพ นับแบบ แกนx จากซ้ายมาขวา แกนy จากบนมาล่าง)
E = ค่าลบ มาตราส่วนแกน y


ดังนั้น ค่าต่างๆ ใน worldfile สามารถแปลงมาเป็น พารามิเตอร์ทั้ง 6 ได้ ดังนี้
The transformation parameters are stored in the world file in this order:

20.17541308822119 – A
0.00000000000000 – D
0.00000000000000 – B
-20.17541308822119 – E
424178.11472601280548 – C
4313415.90726399607956 – F

เมื่ออ่าน ข้อมูลใน worldfile เข้าไปในโปรแกรม ก็จะสามารถ ทราบได้ ว่า ภาพ นั้น อยู่ตรงส่วนไหนของแผนที่ หรืออยู่ตรงส่วนใดของโลกนั่นเอง





นำเข้าข้อมูล Excel สู่ PostgreSQL

1 12 2008

20081201

ได้พี่วิโรจน์เป็นที่ปรึกษาในการนำข้อมูล จาก EXCEL เข้าสู่ ฐานข้อมูล PostgreSQL
คราวนี้ เป็น ฐานข้อมูลธรรมดา ไม่ใช่ Spatial Database

ขั้นตอนมีดังนี้

  • แปลงไฟล์ EXCEL หรือ CALC (openoffice) ให้อยู่ในรูป ของ CSV ไฟล์เสียก่อน
  • สร้าง Table ใน Postgresql ให้มีจำนวน column เท่ากับ จำนวนข้อมูลที่มี
  • ต่อฐานข้อมูล ด้วย pgmyAdminIII เพื่อต่อกับ Table ที่ต้องการนำเข้า พึงระวังเรื่อง type ของข้อมูล
  • ใช้ SQL นำเข้า ดังตัวอย่างนี้
    • copy temple from ‘C:/temp/temple.csv’ with delimiter ‘,’ csv header

ทดสอบว่าข้อมูลเข้าอยู่ครบ ไม่ตกหล่น เป็นอันเรียบร้อย
ที่เหลือ ก็สามารถ ใช้งานได้ เช่นฐานข้อมูลทั่วไป





ปรับปรุง P.Mapper ให้เข้ากับงาน

24 11 2008

การแก้ไข ให้ p.mapper ใช้งานได้ กับงานของคุณ

ยกตัวอย่างเป็น การแสดงข้อมูลวัดในอำเภอ โขงเจียม จังหวัด อุบลราชธานี

ข้อมูล อยู่ใน c:\ms4w\Apache\htdocs\wat
(เอาอย่างง่ายก่อน เดี๋ยวค่อยปรับปรุง) สำเนาจาก p.mapper demo มาไว้ แล้ว เปลี่ยนชื่อ

ตัวข้อมูลแผนที่ อยู่ใน c:\ms4w\Apache\htdocs\wat\data\

ขั้นตอนการแก้ไข

  1. สร้าง หรือแก้ไข mapfile ให้เป็นข้อมูล ที่ต้องการแสดงผล ในที่นี้ ใช้ ชื่อ wat.map
  2. นำ wat.map ไปไว้ ใน c:\ms4w\Apache\htdocs\wat\config\default\wat.map
  3. แก้ไขไฟล์ c:\ms4w\Apache\htdocs\wat\config\config.ini
    แก้ไขชื่อ Mapfile ใน บรรทัดที่ 83-86 โดยประมาณ เปลี่ยนจาก pmapper_demo.map เป็น wat.map
    แก้ไขชื่อ Layer ในบรรทัด ที่ 120-135 ในหัวข้อ  LAYERS/GROUPS DEFINED MANUALLY บรรทัด ที่ขึ้นต้นด้วย
    allGroups = countries, cities, dem, rivers, jpl_wms_global_mosaic แก้เป็น Layer ที่อยู่ใน wat.map
    allGroups = province, kongjeam, roads, village, temple
  4. แก้ไขไฟล์ c:\ms4w\Apache\hidocs\wat\config\default\php_config.php
    ส่วนนี้เป็นการให้ แสดง Layer ให้เลือก ได้ บน web เลือกแบบ TOC
    แก้ไขในบรรทัดที่ 6-14 ในหัวข้อ *  Definition of categories for legend/TOC แก้เป็น
    /**
    * Definition of categories for legend/TOC
    */
    $categories[‘cat_admin’]  = array(“province”, “kongjeam”, “roads”, “village”);
    $categories[‘cat_temple’] = array(“temple”);
    $categories[‘cat_raster’] = array(“dem”, “jpl_wms_global_mosaic”, “wmstest”);

    $_SESSION[‘categories’] = $categories;


    เซฟไฟล์ แล้ว ลองรันใน browser

  5. cat_temple ยังไม่ได้ เพิ่มในข้อมูล ต้องไปเพิ่ม
    แก้ไขไฟล์ \wat\incpho\locale\language_en.php
  6. เพิ่ม $_sl[‘cat_temple’] = ‘Temple data’; เข้าไป บันทึก และทดสอบ

____





วันนี้ google map เป็นอะไร

17 11 2008

เปิด googlemap ตอน 18.00 น. แผนที่ใช้งานได้ ปกติ
แต่พอขอข้อมูลเป็น ภาพถ่ายดาวเทียม กับ ให้ไม่ได้ ซักภาพ

กูเกิ้ลแมพ ป่วย

ใครจะตอบข้อนี้ได้บ้างครัีบ
ปิดปรับปรุง หรือ image server ล่ม

ใคร จุะรู้





PostgreSQL + PostGIS

17 11 2008

หลังจากล้างเครื่องใหม่ ก็เริ่มต้นลงโปรแกรม มาถึงส่วนฐานข้อมูลบ้าง
Postgresql เป็นขาประจำกัน ยิ่งใช้งานร่วมกับ PostGIS เพื่องานภูมิสารสนเทศ ด้วยละก็ ต้องเค้าเลยหละครับ

ลองเช็คดูทางเว็บไซท์ของ PostgreSQL ปรากฎว่า ออกเวอร์ชั่นใหม่ เป็น version 8.3.5 อย่างงี้ก็ต้องลอง
ความแตกต่างในขั้นต้น คือ ได้เปลี่ยน โปรแกรมช่วยในการลงโปรแกรมจากเดิมที่มีหลายไฟล์ มาเป็นไฟล์ เดียว ซึ่งสะดวกแก่ผู้ใช้งาน โดยใช้ EnterpriseDB ขั้นตอนในการลงโปรแกรม ลดลงไปเยอะเลยครับ username และ password ก็ลดลงเหลือให้กรอกที่เดียว จากนั้นกำหนด port การเชื่อมต่อ แล้ว ก็ รอ แค่นั่นpgsql

พอเสร็จ ก็เข้า stack builder เป็นโปรแกรมช่วยติดตั้ง พวก extension หรือ plug-ins เพิ่มเติมตามใจชอบ ของชอมผมก็คือ PostGIS ครับ ใครจะลง ก็ อยู่ใน ส่วนของ Spatial Extension นะครับ

ความสามารถ อื่นไม่ต้องพูดถึง เทียบเท่า ฐานข้อมูลดังๆ ที่มีขาย ที่ผมใช้งาน ส่วนมาก็เป็น spatial database อาศัยผ่านทาง PostGIS นี่แหละครับ
ไว้คอยดูต่อไป ว่า จะเอาไปทำอะไรบ้าง





วาดลวดลายบนโลก ด้วย BMW

6 10 2008

BMW Motorrad เปิดบริการบนเว็บไซท์ ที่ให้สิงห์นักบิดได้วาดลวดลายบนผืนโลกด้วย GPS ที่บันทึกขณะขับขี่มาแสดงบนแผนที่โลกได้

ตัวอย่างเช่น คุณ Sebastian Klein ได้ใช้ BMW F650 GS คู่ใจ ควบไปพร้อมเปิด GPS บันทึกเส้นทาง เขียนเป็นคำว่า unstoppable ลงในเมือง

ตัวหนังสือ สีน้ำเงิน อาจจะอ่านยากหน่อย เพราะเขียนด้วย มอเตอร์ไซค์

ระบบนี้ทาง BMW เผยแพร่ให้ใช้งาน ในวันที่ 25 กรกฎาคม เพื่อให้ชาว BMW ได้นำข้อมูลของตัวเองที่ได้ ไปขับขี่มา แสดงขึ้น บนแผนที่โลก แต่แนวความคิดเค้าออกเป็นแนวว่า ลวดลายที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการ เขียน หรือวาด ลงบนผืนโลก ออกแนวของเล่นคนรวย ใช้มอเตอร์ไซค์ วาดรูปบนผืนโลก อะไรอย่างเนี้ยะ

จากข้อมูลที่ถูกนำขึ้นแสดงบนแผนที่ โดยผู้ใช้งาน กลับกลายเป็นว่า นักบิดได้ น้ำข้อมูลตนเองมาแสดงว่า ได้ ไปที่ไหนมาบ้าง และไม่ได้มีเฉพาะ BMW เท่านั้น นักบิดมอเตอร์ไซค์ยี่ห้ออื่นๆ ก็นำข้อมูลมาลงไว้ด้วยเช่นกัน

ทางด้านเทคนิคนั้น ระบบได้ใช้ แผนที่ฐาน จาก google maps และเขียนโปรแกรมซ้อนทับไว้ พร้อมด้วย ระบบ upload ข้อมูล และระบบ download ข้อมูล นั่นหมายความว่า ท่านสามารถ download ข้อมูล เส้นทางของนักบิดที่น่าสนใจ มาใส่ใน เครื่อง GPS ของท่านได้

เว็บไซท์

BMW Motorcycle

GPS Drawing





ตัด MP3 ทำเสียงเรียกเข้า

25 09 2008

ได้รับการขอร้องแกมบังคับ ให้ตัดเพลงสุดโปรดมาทำเสียงเรียกเข้า ซึ่งมันก็ไม่ยากเท่าไหร่นี่นาโปรแกรมที่เคยใช้งานกันอยู่ก็คือ Audacity แน่นอนครับ เป็นโปรแกรมในตระกูล Open Source Software อีกเช่นเคย สำหรับผมก็ไม่เคยเอาซอร์สโค้ดเค้ามาทำไรเลย โหลดแต่ตัวที่คอมไพล์พร้อมใช้งานบนวินโดว์ทุกที จัดอยู่ในกลุ่มผู้ใช้งานซอฟต์แวร์ฟรีใครสนใจรายละเอียดตัวโปรแกรม หรือต้องการดาว์โหลด ก็ไปได้ที่ Audaicty website

โหลดมาแล้วติดตั้งในเครื่องหน้าตาก็คุ้นเคยกับทีเคยใช้

ด้วยตัวโปรแกรมเองสามารถ เล่น ตัดต่อ ตัวเนื้อเพลงได้ แต่ไม่สามารถบันทึกกลับออกมาเป็น MP3 ได้ต้องอาศัยไลบราลี่ของ LAME MP3 Encoder ติดเพิ่มเข้าไป จึงจะสามารถบันทึกเพลงที่ตัดต่อแล้วเป็น MP3 ได้
หลังจากโหลดไลบราลี่มาได้แล้ว ก็เอาไฟล์ lame_enc.dll  ไปไว้ที่ที่จำได้ ผมเอาไปไว้ใน C:\Program Files\Audacity\Plug-Ins

เมื่อเปิดโปรแกรมมาก็โหลดเพลงที่ต้องการตัดแต่ง เข้าไปสามารถตัดบางช่วงที่ต้องการได้ ดังตัวอย่าง ผมเลือกตัดส่วนที่ต้องการสามารถปรับ ละเอียดว่าจะเริ่มส่วนไหนจบส่วนไหนจะสำเนาออกมา แล้วปิดของต้นฉบับไปแล้วเอาเฉพาะ ส่วนที่เลือกตัดออกมาปรับแต่งต่อ ก็ได้ใส่แอฟเฟคเพิ่มเติมได้

จากนั้นเมื่อต้องการบันทึกเป็น MP3 ก็เลือกเมนู File/Export As MP3 สำหรับต้องการบันทึกทั้งหมด หรือ File/Export selection As MP3 บันทึกเฉพาะ ส่วนที่เลือก พอเลือกแล้ว ในครั้งแรก โปรแกรมจะถามเราว่า ไม่รู้จักว่า ไลบราลี่ lame_enc.dll อยู่ที่ไหน เราก็ระบุ ที่ที่เราเก็บไฟล์ lame_enc.dll ไว้ ซึ่งก็คือ C:\Program Files\Audacity\Plug-Ins\lame_enc.dll โปรแกรมก็จะ บันทึกงานที่เราทำออกมาเป็น MP3

ตอนนี้ผมก็ได้ ไฟล์ MP3 เฉพาะส่วนที่ต้องการเอาไปทำ เสียงเรียกเข้าแล้ว ที่เหลือก็แค่ สำเนาไฟล์ ลงในโทรศัพท์มือถือเท่านั้นเอง

ไม่ยากเท่าไหร่นะ ขั้นตอนก็ละเอียดพอควร





อยากแบ่ง พาร์ทิชั่น ในเครื่อง ทำไงดี

24 09 2008

น้องแก๊ปคนเก่ง ซื้อ คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คมาใหม่ ถามมาว่า อยากแบ่งพาร์ทิชั่น ฮาร์ดดิสก์ ในเครื่อง มีโปรแกรมดีๆ ไหม เอาแบบไม่ต้อง ฟอร์แมตเครื่องใหม่หนะ

เมื่อน้องขอมา ก็ จัดให้ไป

ได้โปรแกรม Partition Logic ที่เผยแพร่โดยคุณ แอนดรู (J. Andrew (Andy) McLaughlin) ประกาศตัวเลยว่า เป็น “free hard disk partitioning and data management tool” มีขนาดเล็กเพียง 1Mb ทำงานบนระบบปฏิบัติการแบบ Visosys เพิ่งเคยได้ยินระบบปฏิบัติการชื่อนี้

Visosys ย่อมาจาก Visual Opetation System พัฒนามาตั้งแต่ปี 1997 เป็นโปรเจ็คงานอดิเรกเล็กๆ ของคุณ J. Andrew McLanughlin หรือคุณ Andy เป็นซอฟต์แวร์ฟรี และเปิดเผยรหัส หรือที่รู้จักกันในชื่อ Open Source Software เป็นระบบปฏิบัตการที่เป็น แบบมัลติทากส์กิ้ง เต็มตัว ขนาดเล็ก ผมไม่เคยเห็น ระบบปฏิบัติการ แบบกราฟฟิค ที่มีขนาดก่อนติดตั้ง 6 Mb กว่าๆ(เวอร์ชั่น 0.69) และปลอดภัย แต่น่าเสียดายที่ ไม่มีแอพพลิเคชั่นให้ใช้เท่าไหร่นัก แต่จุดเด่นคือ มีโปรแกรมสำหรับทำหน้าที่จัดการ ข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ ซึ่งเป็น ข้อเด่น ที่เรา สนใจในการนำมาช่วย น้องแก๊ป จัดการแบ่งพาร์ทิชั่นในฮาร์ดดิสก์

ก่อนอื่นก็ต้อง โหลดตัว โปรแกรมมาก่อน ดาว์นโหลดได้ที่นี่ มีทั้งเวอร์ชั่น บน ซีดี และบน แผ่นดิสก์เก็ต ขนาด 1.44 Mb
เมื่อทำการบูตเครื่องโดย ซีดี หรือ แผ่นดิสก์เก็ต จะได้ หน้าตาประมาณอย่างนี้

เมื่อเข้าสู่การทำงานของโปรแกรม Patition Logic หน้าตาก็คล้ายกับ โปรแกรมแบ่งพาร์ทิชั่นทั่วไป

สามารถใช้งานได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร เลือกพื้นที่ที่ต้องการแบ่งพาร์ทิชั่น เลือกรูปแบบการฟอร์แมต รวมไปถึงสามารถ ฟอร์แมต พาร์ทิชั่นที่แบ่งขึ้นมาใหม่ ได้อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมี แอพพลิเคชั่นพื้นฐาน ที่ ระบบปฏิบัติการทั่วไปควรมี ก็มีอยู่ในด้วย

แล้วน้องแก๊ปก็ได้ แบ่งพาร์ทิชั่น ฮาร์ดดิสก์ สมใจ ไปเรียบร้อย
แต่ผม ได้ การบ้านใหม่ ไปลองใช้ ระบบปฏิบัติการ Visopsys ถ้าไม่อยากลงในเครื่อง ก็มีแบบ Live Demo ลองเล่นดูก่อนได้

เพิ่มเติม:





Micro Four Thirds Camera

23 09 2008

Panasonic Lumix DMC-G1


G-1 จัดได้ว่าเป็นกล้องรุ่นแรกของโลกเลยก็ว่าได้ ที่ออกมาในมาตรฐาน Micro Four Thirds
โดย การพัฒนาร่วมกันระหว่าง โอลิมปัส กับพานาโซนิค การพัฒนาครั้งนี้เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานกล้องถ่ายภาพ ที่ต้องการง่ายๆ ไม่ยุ่งยากเหมือนกล้อง DSLR แต่ได้ขนาดของภาพใหญ่เหมือนกัน

ระบบ Four Thirds คือมาตรฐานขนาดภาพ 4:3 สำหรับกล้องแบบ DSLR ที่รู้จักกัน นั่นก็คืกล้อง DSLR ที่เรารู้จักกันโดยทั่วไปนี่แหละ มาตรฐานนี้ พัฒนาโดย โอลิมปัส และ โกดัก มีสัญลักษณ์ แบบนี้

มา ทำความเข้าใจส่วนนี้ก่อน กล้องSLR ที่ใช้ฟิล์ม จะอยู่ในระบบขนาดภาพ 3:2 เช่น ถ่ายภาพมาแล้วอัดลงในกระดาษ ขนาด 4×6 นิ้ว หรือ 8×12 นิ้ว ถ้าอัดลงในกระดาษ 5×7 หรือขนาดอื่น ก็จะเสียภาพตรงขอบไปเล็กน้อย
ส่วน ขนาดภาพ 4:3 มากับกล้องดิจิตอล เลยก็ว่าได้ โดยอ้างอิงกับการทำงานของจอภาพทีวี หรือคอมพิวเตอร์ เช่นแรกๆ จอคอมพิวเตอร์แสดงผลได้ 640×480 ซึ่งเท่ากับจอทีวี อัตราส่วนนี้ ถ้า หารด้วย 160 เข้าไป จะได้ 4:3 ต่อมาจอภาพพัฒนาความละเอียดขึ้นมาเรื่อย เป็น 800×600, 1024×768 และใหญ่ขึ้น ก็จะอาศัย อัตราส่วน 4:3 เพิ่มขึ้นไปทั้งนั้น จนมายุคที่คอมพิวเตอร์ ถูกใช้ในงาน มัลติมีเดียมากขึ้น ก็จะมีการผลิตจอภาพ แบบกว้าง(Wide screen) มาใช้งาน อัตราส่วนของจอภาพแบบกว้างจะไปสัมพันธ์กับ จอภาพภาพยนต์
ทีนี้คงพอตอบ คำถามได้บ้างแล้วว่าทำไม เวลาเอากล้องดิจิตอลไปอัดที่ร้าน ร้านมักจะถามว่า จะเอาเต็มภาพ หรือเอาเต็มกระดาษ เพราะอัตราส่วนมันไม่เท่ากัน

อธิบาย ต่ออีกนิด กล้อง SLR ที่เป็นต้นแบบของกล้อง DSLR นั้น คำว่า SLR มาจาก Single-Lens Reflex ด้วยเห็นผลที่ว่า ภาพที่ผ่านเลนส์ภาพเข้ามา จะสะท้อนกระจกขึ้นไปยัง เลนส์ตา หรือช่องมองภาพ เวลากดชัตเตอร์ กล้องก็จะกระดกกระจกสะท้อนขึ้น แล้วเปิดม่านชัตเตอร์ ให้ภาพที่ผ่านเลนส์ภาพ ตกกระทบกับระนาบฟิล์ม ด้วยเหตุผลที่ว่า ภาพที่มองเห็นมาจากแหล่งเดียวกับภาพที่บนระนาบฟิล์ม จึงเรียก SLR เพราะมีกล้องอีกแบบ ที่ ช่องมองภาพมีช่องดูต่างหาก ไม่ได้ ดูผ่านเลนส์ภาพ

ภาย หลังที่กล้อง ดิจิตอลเข้ามา ทำให้วงการกล้อง SLR เกือบแย่ไปเหมือนกัน เพราะเทคโนโลยีมันเปลี่ยน แต่ยุคเริ่มต้นนั้นความละเอียดของภาพยังห่างไกลกับ ฟิล์มมากนัก แต่ปัจจุบันเท่ากันแล้ว ยังไงก็ได้ ด้วยความที่ใช้งานง่าย ถ่ายภาพแล้วเห็นผลงานเลย ไม่ต้องรอลุ้นล้างฟิล์ม กดได้เต็มที่ แล้วค่อยเลือกที่ชอบ ทำให้กล้องดิจิตอล เป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไป จะมีกี่คนที่ลองคิดว่า กล้องคอมแพคดิจิตอล ก็เปรียบเหมือนกล้องปัญญาอ่อนสมัยก่อน แต่ต่างกันที่ กล้องปัญญาอ่อนสมัยก่อน ราคาไม่กี่ร้อย ไม่กี่พัน แต่กล้องคอมแพคดิจิตอล ราคาเป็น หมื่น ยังดีว่า เดี๋ยวนี้ ราคาลงมาเยอะ ซึ่งผมก็ใช้อยู่เหมือนกัน จนเมื่อมีการพัฒนาคุณภาพของเซนเซอร์รับภาพ ปัจจุบันก็เป็น CCD กับ CMOS ที่ใช้กัน รวมกับของใหม่อย่าง Live MOS กับขนาดที่เล็กลงทำให้ได้ความละเอียดมากขึ้นเทียบเท่าฟิล์ม กล้อง SLR ก็ปฏิวัติตัวเอง โดยการเอาชุดขับเคลื่อน ฟิล์มออก เอาเซนเซอร์รับภาพไปวางไว้แทนฟิล์ม เกิดเป็น DSLR ต่ออายุ กล้องต่อไป จนถึงการออกแบบให้เป็น DSLR เต็มรูปแบบ เหมือนปัจจุบัน

ส่วน Micro Four Thirds ก็มีการทำงานเช่นเดียวกับกล้อง DSLR โดยทั่ว ไป แต่ได้เอากระจกสะท้อนภาพออก แล้วหันไปใช้ ระบบช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์(EVF:Electronic View Finder ก็ช่องมองภาพแบบของเครื่องถ่ายวีดีโอ นั่นแหละ) และทาง พานาโซนิค ได้เพิ่มความละเอียดลงไป ในจอมองภาพถึง 1,440,000 จุดภาพชื่อว่าLVF(Live View Finder)ทำให้เห็นภาพได้ละเอียดขึ้น และเห็นเป็นภาพเคลื่อนไหว แต่เดิมจอมองภาพ มีไว้สำหรับดูภาพ หลังถ่ายภาพแล้ว ไม่สามารถแสดงภาพก่อนถ่ายภาพได้ ซึ่งกำลังเริ่มนำเข้ามาใช้กับกล้องในหลายๆ ค่าย และด้วยการตัดเอากระจกสะท้อนภาพออกไปทำให้ขนาดของกล้องเล็กลง ไปพอๆ กับกล้องคอมแพค แต่คงความละเอียดได้ เท่ากล้อง DSLR

จากภาพจะเห็นได้ว่า เมื่อเอากระจกสะท้อนภาพออกไป สามารถลดระยะโฟกัสจากเลนส์ถึงระนาบเซนเซอร์

ภาพ นี้ จะเห็นว่า ระยะทางระหว่างแสงผ่านเลนส์ ถึงจุดโฟกัส บนระนาบ เซนเซอร์ ของ Micro Four Thirds สั้นกว่าของ Four Thirds ประมาณครึ่งนึง แถมยังสามารถ ใช้เลนส์ ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางได้ น้อยกว่า โดยที่ได้ขนาดของภาพเท่ากัน

เลนส์ที่ออกแบบมาสำหรับ กล้อง Micro Four Thirds จะมีขนาดเล็กกว่า เลนส์ทั่วไป 6 มม. แต่ก็ยังสามารถใช้เลนส์ของกล้องทั่วไปได้ โดยอาศัย อแดปเตอร์

จากภาพ แสดงให้เห็นว่า กล้อง Micro Four Thirds สามารถ ใช้เลนส์ ร่วมกับ กล้อง DSLR ได้ โดยอาศัย อแดปเตอร์

G-1 กับความละเอียดภาพ 12.1 ล้านพิกเซล แถมระบบทำความสะอาด เซนเซอร์เพื่อกำจัดฝุ่น ส่วนเซนเซอร์นั่น ทางพานาโซนิค ในนามเรียกขานว่า Live Mos Sensor เป็นการพัฒนา เซนเซอร์ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเริ่มใช้งานบนผลิตภัณฑ์ ของโอลิมปัส และ พานาโซนิค ลดข้อด้อยของทั้ง CCD และ CMOS
กับมอนิเตอร์ขนาด 3 นิ้วสามารถ พลิกใด้ เพื่อความสะดวกในการถ่ายภาพในมุมต่างๆ มอนิเตอร์แบบนี้ ผมได้อาศัยใช้ในภาพมุมก้ม มุมเงย จาก FZ-30 ก็ติดใจอยู่ กับความสามารถที่พัฒนาขึ้นอย่างมาก ISO สูงถึง3200 แถมพ่วงด้วย ระบบ Noise reduction ได้ถึง 5 ระดับ ซึ่งแต่เดิม อย่างใน FZ-30 นั้น Noise จะเยอะ แต่ด้วย เซนเซอร์ แบบ LMS ทำให้คุณภาพ ของภาพ ดีขึ้น แถมเอาใจวัยรุ่นด้วยการออก บอดีสีแดง กับสีน้ำเงิน แถมมาด้วย สำหรับคนที่ไม่ชอบสีดำ

เพิ่มเติม: